วันพฤหัสบดีที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2552

Welcome to Nothing

“ทุกสิ่งทุกอย่าง เกิดขึ้นมาจากความว่างเปล่า – ความว่างเปล่าคือจุดเริ่มต้นและจุดจบของทุกสิ่งทุกอย่าง”
นพพันธ์-
"มีความรู้สึกอย่างไรกับการแสดง และอยากทำอะไรที่สุดในการแสดง"

กีรติ ศิวะเกื้อ -
“อยากทำอะไรบ้าๆไปเลย”
(สิบนาทีผ่านไป)
“ขอเปลี่ยนเป็นร้องเพลงได้มั้ยพี่”
(เพลงอะไร)
“เพลงโซล์ - แบบบริทนี่”
(บริทนี่ไม่ได้ร้องเพลงโซล์)
“อ้าวเหรอ”

เกรียงไกร ฟูเกษม –
“เล่นละครมาก็เยอะแล้ว รู้ว่า คนดู มาเพื่อรอ ดูคน เล่น อยากออกไปบนเวทีแล้วไม่เล่นบ้าง อยู่เฉยๆ อยู่นิ่งๆ – นี่ไง เล่นแล้ว”

DON'T THINK - JUST FEEL
แล้วมันคืออะไรล่ะ

มันก็คือละครเวทีเรื่องที่สอง ที่เขียนบท/กำกับแล้วเล่นเอง เป็นละครแนว “แอบเซิรด์” ถ้าละครเรื่องนี้เปรียบเทียบกับจานอาหาร มันก็คงต้องเป็น ยำมั่ว - มีอะไรในครัวก็ใส่ลงไปให้หมด - แล้วก็ได้จานพิสดารออกมา จากที่ไม่มีอะไรเลย แต่ก็สามารถสร้างสิ่งน่าทึ่งให้เกิดขึ้นได้
อาหาร เพลง เสื้อผ้า ภาพวาด งานเขียน ศิลป – บ้านเมือง
อยากรู้ว่า อยู่ดีๆมันมีขึ้นมาได้อย่างไร ทั้งๆที่ตอนแรก ตอนเริ่มต้น จากศูนย์ เราไม่มีอะไรเลย มีแต่ ความว่างเปล่า – แต่ ณ บัดนี้ เรามีเยอะเกินไป มันเยอะแยะไปหมด สรรพสิ่งเต็มบ้านเต็มเมือง เราไม่รู้จักพอ เราต้องมีอีก มีให้เยอะ ถ้าไม่ต้องการก็โยนทิ้ง...หาที่ว่างๆเพื่อทิ้งสิ่งที่เราไม่ปราถนา
และบางครั้งหาที่ว่างๆเพื่อวิ่งหนีสิ่งที่เราไม่ปราถนา

ละครเกี่ยวกับอะไร

มันไม่เกี่ยวกับอะไรซักอย่าง แต่ในเวลาเดียวกัน มันเกี่ยวกับทุกๆอย่าง Welcome to nothing เป็นการ์ตูนที่เขียนขึ้นมาปีที่แล้ว ละครเรื่องนี้มีคอนเซปมาจากการ์ตูน เป็นเรื่องราวหลายๆตอนที่ไม่เกี่ยวข้องกัน มีตัวละครหลายตัว สภานการณ์หลายแบบ หลายรส หลายอารมณ์


“สุดยอดของสาระ คือไร้สาระ”
April 2008 @ Crescentmoon space

1 ความคิดเห็น: